เมล็ดเจียสุดยอดธัญพืชมหัศจรรย์

เมล็ดเจียสุดยอดธัญพืชมหัศจรรย์

Chia Seeds, Superfood –Good and Clean

มาทำความรู้จักกับเมล็ดเจีย มีหลายคนอาจยังไม่รู้จักว่าคืออะไร, ประวัติและต้นกำเนิดอยู่ที่ไหน, รูปร่างเป็นอย่างไร, มีประโยชน์ต่อสุขภาพเพียงใด หลายๆ คน จึงยกให้เป็น superfoodสุดยอดธัญพืชมหัศจรรย์ มาดูเรื่องราวที่น่าทึ่งกันเลย

เมล็ดเจียมีคุณค่านานหลายพันปี

                เมล็ดเจีย หรือ เมล็ดเชีย (chia seeds) คือเมล็ดธัญพืชที่มีขนาดเม็ดเล็กๆคล้ายเม็ดแมงลัก เมื่อแช่น้ำผิวเมล็ดชั้นนอกจะแปรสภาพเป็นเจลใสอุ้มน้ำห่อหุ้มเมล็ดไว้ ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารและมีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย กลุ่มคนรักสุขภาพและนักกีฬานิยมบริโภคกันอย่างมากและยังขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารควบคุมน้ำหนักที่เห็นผลดีทีเดียว

                เจียไม่ใช่พืชที่พึ่งค้นพบ แต่หากมีประวัติที่ยาวนานมาหลายพันปีเป็นพืชพื้นเมืองโบราณที่มีอายุนานกว่า3,500 ปี จากหลักฐานทางโบราณคดีค้นพบว่ามีการเพาะปลูกในตอนกลางและตอนใต้ของเม็กซิโก ตั้งแต่ราว 1,500-900 ปีก่อนคริสตกาล จวบจนถึงยุคสมัยของจักรวรรดิมายา (Maya Empire) และจักรวรรดิแอซแทค (Aztec Empire)

                ในยุคโบราณถือได้ว่าเป็นพืชที่สำคัญมาก ชาวอเมริกันพื้นเมืองบริโภคเจียเป็นอาหารหลักและเครื่องดื่ม สกัดน้ำมันไว้ปรุงอาหาร ใช้ในการรักษาบาดแผล รวมถึงเป็นเครื่องบรรณาการ และเครื่องบูชาเทพเจ้าในพิธีกรรมต่างๆ อีกด้วย

ความหมายของเมล็ดเจียChia = Strength

คำว่า “เจีย” (chia) เป็นภาษาของชาวมายัน ที่มีความหมายว่า “พละกำลังและความแข็งแกร่ง” (strength)ด้วยคุณสมบัติอุ้มน้ำได้มากกว่าน้ำหนักตัวถึง 10 เท่าประกอบกับสารอาหารที่อัดแน่นเต็มเมล็ด จึงกลายเป็นเสบียงชั้นยอดของผู้ส่งสารชาวมายัน เมื่อใดที่ต้องออกเดินทางด้วยเท้าหลายร้อยไมล์ เพียงพกเมล็ดสักกำมือติดตัวไปด้วย ทำให้มีอาหารเพิ่มพลังงานสำหรับการเดินทางได้ยาวนาน

 

ชาวแอซแทครู้ถึงสรรพคุณของเมล็ดเจียChia ที่ชาวมายันส่งให้เป็นเครื่องบรรณาการในตอนแรกนำมาเป็นอาหารสำหรับจักรพรรดิแห่งแอซแทค และบริโภคกันในราชสำนักเท่านั้น ต่อมาจึงอนุญาตให้ประชาชนทั่วไปบริโภคโดยการเรียกเก็บเป็นภาษีแทน

              

  นักรบชาวแอซแทคจะกินก่อนออกรบ เพราะเชื่อว่าช่วยเสริมสร้างความทรหดให้ร่างกาย ทำการรบได้โดยไม่รู้สึกหิวโหยและเหนื่อยล้า และยังใช้รักษาบาดแผลในเบื้องต้นได้อีกด้วย

ยุคต้องห้ามของเมล็ดเจีย

                เมล็ดเจียChia  มีความสำคัญและจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของชาวมายันและแอซแทคมาตลอด จนกระทั่งถึงยุคการล่าอาณานิคมในช่วงศตวรรษที่ 15-16  กองทัพสเปนบุกเข้ารุกรานดินแดนแถบทวีปอเมริกาใต้และประกาศชัยชนะเหนือชนพื้นเมือง ใน ค.ศ. 1521 โดยการนำของนายพลชาวสเปน Hernay Cortes?

                ประเพณีและวัฒนธรรมต่างๆ ของชาวอเมริกันพื้นเมืองถูกยกเลิกและล่มสลาย กลายเป็นสิ่งต้องห้ามด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเพาะปลูกหรือบริโภค เพราะเป็นหนึ่งในเครื่องบูชาเทพเจ้าของชาวพื้นเมืองจึงค่อยๆ สูญพันธุ์ไป มีหลงเหลืออยู่ในเม็กซิโกเมื่อราว 500 ปีก่อนเท่านั้น

การกลับมาอีกครั้งของเมล็ดเจีย

                ราวศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่ยุคอเมริกาสมัยใหม่ นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน นักโภชนาการ และนักวิชาการเกษตรได้ร่วมมือกันค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับเมล็ดเจีย เพื่อผลิตสำหรับการค้าขึ้นในอาร์เจนตินา ด้วยหวังจะฟื้นฟูพืชพื้นเมืองที่มีประโยชน์ให้กลับคืนมา

คุณค่าทางโภชนาการของชาวแอซแทคกลับคืนมา การค้นพบประโยชน์อันน่าทึ่งส่งผลให้เมล็ดเจียหวนคืนมามีบทบาทอีกครั้งอย่างงดงาม เป็นที่ยอมรับทั้งในอเมริกาและยุโรป และขยายความนิยมไปทั่วโลกภายในเวลาไม่กี่ปี

http://www.thechia.co.th/

https://www.facebook.com/thechiagroup