วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เมล็ดเจียกับเม็ดแมงลักแตกต่างกันอย่างไร



 
ลักษณะการพองตัวของเมล็ดเจียและเม็ดแมงลัก

เมล็ดเจียกับเม็ดแมงลักแตกต่างกันอย่างไร

                เมล็ดเจีย (chia seeds) มีคุณสมบัติพองตัวเมื่อแช่น้ำเหมือนเม็ดแมงลัก จึงทำให้หลายคนสับสนและเข้าใจผิดคิดว่าคือเม็ดแมงลักกับเมล็ดเจียเป็นชนิดเดียวกันเลยคิดจะรับประทานเม็ดแมงลักแทนมาดูความแตกต่างกันเลย
สังเกตความแตกต่างคือ
รูปร่าง
เมล็ดเจียจะมีลักษณะมนรี  มีสีขาว เทาหลายเฉดจนเกือบดำ เปลือกหุ้มเมล็ดมีลวดลาย ไม่เรียบ ส่วนเม็ดแมงลักจะมีเมล็ดรี สีดำเข้ม เปลือกหุ้มเมล็ดไม่มีลวดลาย
แช่ในน้ำ

                เมื่อนำเมล็ดพืชทั้งสองชนิดแช่ลงในน้ำจะเห็นความแตกต่างชัดเจน เพราะเมล็ดเจียจะดูดซับน้ำ แล้วเปลือกพองตัวกลายเป็นเจลใส ดูดซึมน้ำได้มากถึง 9-12 เท่าของน้ำหนักเมล็ด ส่วนเม็ดแมงลัก เปลือกหุ้มเมล็ดจะพองตัวได้ถึง 45 เท่า มีลักษณะเป็นเมือกสีขาวขุ่น

ประโยชน์และสรรพคุณ 

                เมล็ดเจียมีสารอาหารต่างๆอัดแน่นอยู่เต็มเมล็ด ให้พลังงานอาหารที่สูงแต่มีแคลอรี่ต่ำ บริโภคทดแทนมื้ออาหารได้ ต่างจากเม็ดแมงลักที่ไม่ได้ให้พลังงาน มีสรรพคุณใช้เป็นยาระบาย เพิ่มกากใยและช่วยหล่อลื่นในการขับถ่ายได้สะดวก การรับประทานเม็ดแมงลักเพียงอย่างเดียวอาจจะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารได้

                หากคิดจะรับประทานเม็ดแมงลักแทนเมล็ดเจียก็คงต้องคิดดูใหม่เพราะคุณค่าของเมล็ดเจียมีสรรพคุณและประโยชน์มากมายกว่าที่สำคัญสมกับราคาจริงๆ
เมล็ดเจียอุดมไปด้วยสารอาหาร

                สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกา รับรองว่า เมล็ดเชีย (chia seeds) เป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารหลากหลายชนิด สารต้านอนุมูลอิสระ เส้นใย และฟลาโวนอยด์(Flavonoid) อีกทั้งยังได้รับการยืนยันว่าไม่มีโทษต่อร่างกาย

                จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา(USDA)  ระบุว่าChia seed มีคุณสมบัติเป็น superfruitเพราะให้คุณค่าทางโภชนาการสูงแต่มีแคลอรี่ต่ำ และยังเป็น super seedธัญพืชเมล็ดจิ๋วที่อัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่ ไฟเบอร์ กรดไขมัน แคลเซียม โปรตีน วิตามินเอ, บี, ดี, อี สารต้านอนุมูลอิสระ และอีกมากมาย

Chia Seed เพียง 1 ออนซ์ หรือประมาณ 28 กรัมมีคุณค่าสารอาหารมากมายดังนี้

สารอาหาร                                             ปริมาณ
พลังงานรวม                                          137         กิโลแคลอรี่
พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต                  50           กิโลแคลอรี่
พลังงานจากไขมัน                                 72.1        กิโลแคลอรี่
พลังงานจากโปรตีน                              15.2        กิโลแคลอรี่
คาร์โบไฮเดรต                                        12.3        กรัม
โปรตีน                                                    4.4          กรัม
เส้นใยอาหาร                                         10.6        กรัม
ไขมันรวม                                                8.6          กรัม
ไขมันอิ่มตัว                                            0.9          กรัม
ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว                         0.6          กรัม
ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน                           6.5          กรัม
กรดไขมันโอเมกา 3                               4915       มิลลิกรัม
กรดไขมันโอเมกา 6                               1620       มิลลิกรัม
แคลเซียม                                               177         มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส                                             265         มิลลิกรัม
โปแตสเซียม                                           44.8        มิลลิกรัม
โซเดียม                                                   5.3          มิลลิกรัม
สังกะสี                                                    1.0          มิลลิกรัม
ทองแดง                                                  0.1          มิลลิกรัม
แมงกานีส                                               10.6        กรัม
คอเลสเตอรอล                                      0              มิลลิกรัม
น้ำ                                                           1.4          กรัม
วัตถุอนินทรีย์อื่นๆ  (Ash)                     1.4          กรัม

Chia seed เราสามารถออกเสียงได้สองแบบคือ เจีย กับ เชีย จะเรียกเสียงอย่างไรก็ได้ไม่ผิดแล้วแต่จะออกเสียงและเมล็ดจะมี 2 สี คือ ขาวและดำ สองตัวนี้มีคุณประโยชน์เหมือนกันทุกประการต่างกันที่สีเท่านั้นอยู่ที่ความชอบ


วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ข้อควรรู้ก่อนบริโภคเมล็ดเจีย



 
เมล็ดเจียนั้นเป็นธัญพืชที่เก็บรักษาได้ยาก
เมล็ดเจียคือธัญพืชที่ใช้ในการบำรุงสุภาพควบคุมน้ำหนัก

ข้อควรรู้ก่อนบริโภคเมล็ดเจีย
                เมล็ดเจีย(Chia seed)มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากก็จริง แต่มีข้อยกเว้นสำหรับบางคนที่มีปัญหาด้านสุขภาพ ก่อนบริโภคจึงจำเป็นที่จะต้องรู้ถึงผลข้างเคียง ดังนี้

1.             มีกากใยสูงถึง 25%ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารจึงควรหลีกเลี่ยงการบริโภค
2.             มีกรดไขมันโอเมกา 3 สูง ซึ่งสามารถละลายลิ่มเลือด ทำให้เลือดไม่จับตัวเป็นก้อน ผู้ป่วยที่กำลังจะผ่าตัด หรือผู้ที่ใช้ยาเจือจางเลือด (Blood Thinner) หรือใช้ยาแอสไพริน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภค ส่วนผู้ป่วยภาวะเลือดแข็งตัวช้า ไม่ควรบริโภค
3.             ผู้ป่วยความดันโลหิตต่ำ ไม่ควรบริโภค เพราะมีความสามารถในการลดความดันโลหิตได้เป็นอย่างดี
4.             ผู้เป็นภูมิแพ้เมล็ดมัสตาร์ดหรืองา อาจเกิดอาการภูมิแพ้ได้เพราะมีสารประกอบที่ทำให้เกิดภูมิแพ้
5.             มีกรดอัลฟาไลโนเลนิก (ALA) ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม
6.             มีวิตามินบี 17 สูง ซึ่งเชื่อว่าควบคุมโรคมะเร็งได้ ผู้ที่ทานวิตามินบี 17 เสริมและทานเมล็ดเจียร่วมด้วย อาจส่งผลให้ร่างกายได้รับวิตามินชนิดนี้มากเกินไปอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้
7.             หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภค อาจจะทำให้สารอาหารในน้ำนมเปลี่ยนไป
หากไม่แน่ใจสามารถบริโภคเมล็ดเจีย Chia Seed ได้หรือไม่ ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีที่สุด
ไม่ควรบริโภคเมล็ดที่มีคุณภาพต่ำเพราะทำให้เสี่ยงต่อร่างกายได้

เมล็ดเจียนั้นเป็นธัญพืชที่เก็บรักษาได้ยาก หากโดนน้ำแล้วจะไม่สามารถนำกลับมาทำให้แห้งได้อีก อาจจะเกิดปัญหาการติดเชื้อราในเมล็ด ควรตรวจสอบผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อกับผู้จำหน่ายที่ไม่ได้แสดงใบการันตีคุณภาพ

หากบริโภคเมล็ดเจียที่มีไม่มีคุณภาพเข้าไปอาจทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้หรือสะสมจนเกิดความเจ็บป่วย สินค้าที่มีคุณภาพต่ำจะทำให้เกิดความเสี่ยงสูงตามมา ควรตรวจสอบให้มั่นใจก่อนการมาบริโภคเพื่อประโยชน์ของตัวเราเองควรบริโภคให้พอเหมาะกับปริมานที่แนะนำก็จะเป็นคุณประโยชน์มหาศาลกับร่างกายเลยทีเดียว 

http://www.thechia.co.th/

https://www.facebook.com/thechiagroup 

เมล็ดเจียดีต่อสุขภาพอย่างไร




 
เมล็ดเจียตัวช่วยควบคุมน้ำหนักเพื่อสุขภาพ
เมล็ดเจียดำ

เมล็ดเจียดีต่อสุขภาพอย่างไร

ในฐานะที่เมล็ดเจียนั้น เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสารอาหาร  โอเมก้า3 ไฟเบอร์ และโปรตีน อีกทั้งยังเป็นแหล่งของ วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว เมล็ดเจียยังช่วยในเรื่องของสุขภาพความงาม ช่วยในระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกายให้ดีขึ้น และช่วยเรื่องระบบทางเดินอาหาร อีกทั้งยังช่วยดูแลสุขภาพผิว ผม และเล็บอีกด้วย

เมื่อเรานำเมล็ดเจียไปแช่กับน้ำหรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพต่าง ๆ ที่เป็นของเหลว เมล็ดเจียจะสามารถดูดน้ำและพองตัวได้ถึง 16 เท่า ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มและอยู่ท้องเร็วขึ้น แถมยังช่วยควบคุมระดับความชุ่มชื่นของร่างกาย

เมล็ดเจียตัวช่วยควบคุมน้ำหนักเพื่อสุขภาพ
เมล็ดเจียจะดูดน้ำและเกิดการพองตัวขึ้นเมื่อเรานำไปแช่ไว้ในของเหลว โดยจะมีลักษณะเป็นเจลการพองตัวของเมล็ดเจียนั้น จะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มและอยู่ท้องได้นานขึ้นและหลายๆคนยังนำเอาเมล็ดเจียไปใส่เพิ่มกับมื้ออาหารประจำวัน เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มากเกินไป และช่วยควบคุมแคลอรีได้ในแต่ละวันของคุณเมล็ดเจียจะชะลอการแปลงเป็นน้ำตาลของคาร์โบไฮเดรต และจะค่อยๆปล่อยพลังงานออกมาอย่างสม่ำเสมอ จึงเหมาะกับการทานเป็นอาหารว่างก่อนออกกำลังกาย หรือ ช่วยเพิ่มพลังงานหลังจากการออกกำลังกาย


เมล็ดเจีย ช่วยบำรุงหัวใจ
ลักษณะของเมล็ดเจียขาว

เมล็ดเจียช่วยควบคุมโรคเบาหวาน
จากการศึกษาค้นคว้าวิจัย พบว่าการทานเมล็ดเจียไปพร้อมกับมื้ออาหารของคุณนั้นจะสามารถช่วยลดไขมันในร่างกาย ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยลดการต่อต้านการสร้างอินซูลินในตับอ่อน ดังนั้นจึงสามารถช่วยควบคุมโรคเบาหวานได้
โดยเมื่อเร็วๆนี้ นักโภชนาการที่มีชื่อเสียงของเรา ได้ศึกษาข้อมูลและค้นพบพบว่า การรับประทานเมล็ดเจียเพียง 1 ช้อนโต๊ะต่อวันนั้น จะสามารถช่วยให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานลดระดับน้ำตาลในเลือดในช่วงเช้า และยังช่วยลดระดับน้ำตาลไปจนถึงสองชั่วโมงหลังอาหารเย็นได้อีกด้วย

เมล็ดเจีย ช่วยบำรุงหัวใจ
เมล็ดเจียเพียง 1 ช้อนโต๊ะ คุณจะได้รับคุณประโยชน์ของสารอาหาร โอเมก้า3 เอแอลเอ ที่ร่างกายคุณต้องการในแต่ละวัน
จากงานวิจัย พบว่าโอเมก้า3 นั้น เป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำงานของหัวใจ ทั้งสามารถลดคอเรสเตอรอลในหลอดเลือดหัวใจได้
โอเมก้า3เอแอลเอและ โอเมก้า3 ดีเอชเอ (ที่พบในน้ำมันปลา) ทั้งสองชนิดนี้เป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดหัวใจ อย่างไรก็ตาม ทางด้านมูลนิธิหัวใจได้แนะนำให้บริโภค โอเมก้า3 เอแอลเอ เพียง 1 ครั้งต่อสัปดาห์ และบริโภค โอเมก้า3 ดีเอชเอ เพียง 2 ครั้งต่อสัปดาห์

เมล็ดเจีย ช่วยเพิ่มระดับพลังงาน
เมล็ดจะมีลักษณะเป็นเจลเมื่อถูกแช่น้ำไว้ ซึ่งจะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มและอยู่ท้องได้นาน และยังช่วยชะลอการเปลี่ยนแปลงเป็นน้ำตาลของคาโบไฮเดรต การแปลงรูปคาร์โบไฮเดรตอย่างช้าๆนี้ จะช่วยให้รักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้ง่ายขึ้น
นักกีฬาหลายคน เมื่อรับประทานเมล็ดเจียเป็นประจำ ซึ่งจะช่วยให้เสริมสร้างความอดทนความคล่องตัว และซ่อมแซมกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังสามารถช่วยรักษาระดับของเหลวในร่างกายได้ดี

http://www.thechia.co.th/

https://www.facebook.com/thechiagroup